บริษัท อินโนเวชั่น คอนซัลท์ติ้ง เซอร์วิส จำกัด (“บริษัท”) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวและตระหนักถึงความสำคัญต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานบริษัท (“ท่าน”) บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพียงเท่าที่จำเป็นในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้ระบุไว้ในนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ (“นโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล”) โดยเป็นไปตามขอบเขตและหลักเกณฑ์ที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) กำหนด
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ รวมถึงบุคคลดังต่อไปนี้
พนักงาน | ซึ่งหมายถึง พนักงานของบริษัท ทั้งในปัจจุบันและในอดีต ผู้ปฏิบัติงานของบริษัทผู้ให้บริการช่วง |
บุคคลที่เกี่ยวข้อง | ซึ่งหมายถึง บุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลข้างต้น เช่น บุคคลในครอบครัว บุคคลอ้างอิง ผู้ติดต่อกรณีฉุกเฉิน และผู้รับผลประโยชน์ เป็นต้น |
ในกรณีทั่วไป บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากท่านโดยตรง อย่างไรก็ดี ข้อมูลส่วนบุคคลบางประเภทจะถูกจัดเก็บโดยอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่บริษัทนำมาใช้ ซึ่งรวมถึงข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log File) นอกจากนี้ บริษัทยังอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลอื่นในบางกรณี โดยท่านสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามตารางด้านล่างนี้
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท เก็บรวบรวมจากท่านโดยตรง | บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระหว่างขั้นตอนดังต่อไปนี้ (ก) บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้ในกระบวนการคัดเลือกผู้สมัคร และจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นอื่น ๆ เพิ่มเติมเมื่อท่านได้รับการคัดเลือก โดยข้อมูลดังกล่าวจะถูกบันทึกในแฟ้มประวัติพนักงาน (ข) บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับการทำงานของท่าน ในระหว่างที่ท่านปฏิบัติหน้าที่ในฐานะพนักงานของบริษัท (ค) กรณีอื่น ๆ ที่บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ |
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติหรือด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ | ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกเก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ ในกรณีดังต่อไปนี้ (ก) บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log File) เมื่อท่านใช้งานคอมพิวเตอร์ และอินเตอร์เน็ต (ข) กรณีอื่น ๆ ที่บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ |
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวมจากบุคคลอื่น | บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลอื่นในกรณีดังต่อไปนี้ (ก) ในกรณีที่ท่านเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้อง บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากพนักงานที่ท่านมีความเกี่ยวข้อง (ข) กรณีอื่น ๆ ที่บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ |
ในกรณีที่ท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้องแก่บริษัท เช่น ข้อมูลของบุคคลในครอบครัว บุคคลอ้างอิง และพนักงานของบริษัทที่ท่านรู้จัก ท่านต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลที่เกี่ยวข้องดังกล่าว และมีหน้าที่แจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
ในกรณีที่ท่านต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือมีความจำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเข้าทำหรือปฏิบัติตามสัญญา บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงผลกระทบจากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ซึ่งในบางกรณี การไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจทำให้ท่านไม่สามารถรับสิทธิบางอย่างเนื่องจากบริษัทไม่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์นั้น ๆ
บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ตามรายละเอียดในตารางด้านล่างนี้ โดยบริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฐานใดฐานหนึ่งหรือหลายฐาน ดังนี้
(ก) การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่มีผลบังคับใช้กับบริษัท
(ข) การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น
(ค) การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลอื่น
(ง) การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นไปเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
(จ) ในกรณีที่บริษัทไม่สามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานในการประมวลผลข้อมูล
ส่วนบุคคลฐานใดฐานหนึ่งข้างต้น บริษัทจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน โดยท่านสามารถถอนความยินยอมได้ทุกเมื่อ ผ่านช่องทางการติดต่อที่ระบุในนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
วัตถุประสงค์ | ข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้ในการประมวลผล | ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล | |
1. | พนักงาน | ||
1.1 | เพื่อจัดทำสัญญาจ้างงานและประวัติพนักงาน | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ วันเดือนปีเกิด เลขประจำตัวประชาชน อายุ ที่อยู่ อีเมล Line ID เพศ สถานะการเกณฑ์ทหาร สถานะครอบครัว จำนวนบุตร รูปถ่าย เบอร์โทรศัพท์ ประวัติการศึกษาและการทำงาน ทักษะพิเศษใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ลายมือชื่อ สถานที่ทำงาน ประวัติการอบรมต่าง ๆ เพศ ตำแหน่งงานที่ต้องการสมัครและเงินเดือนที่ต้องการ เลขบัญชีธนาคาร ประวัติการกระทำความผิดทางอาญาซึ่งไม่ใช่ประวัติอาชญากรรมที่ได้รับจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ข้อมูลการเป็นบุคคลล้มละลาย ข้อมูลสัญชาติ เชื้อชาติ ศาสนา หมู่โลหิต ความบกพร่องทางร่างกาย และข้อมูล อื่น ๆ ที่ท่านได้ให้ไว้ในชั้นของการสมัครงาน |
|
1.2 | เพื่อจัดทำทะเบียนลูกจ้างตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ สัญชาติ วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ เลขบัตรประจำตัวประชาชน เพศ ตำแหน่ง ค่าจ้างและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่น วันเริ่มและสิ้นสุดการจ้าง |
|
1.3 | เพื่อตรวจสอบและประเมินผลการปฏิบัติงาน ตลอดจนการพิจารณาปรับขั้นอัตราเงินเดือน หรือปรับตำแหน่งของพนักงาน และการพิจารณาให้ค่าตอบแทน (Commission) แก่พนักงานแผนกงานขายและการตลาด | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ ตำแหน่ง ลายมือชื่อ ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานและการประเมินผลประจำปี ตำแหน่ง ฝ่าย และแผนก เงินเดือนที่ได้รับในปัจจุบันและโบนัส อายุงาน |
|
1.4 | เพื่อตรวจสอบและอนุมัติการใช้วันลา และสวัสดิการตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานและ/หรือตามข้อบังคับของบริษัท | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ ตำแหน่ง รายละเอียดการลาและสวัสดิการที่ใช้สิทธิ ข้อมูลสุขภาพ และโรงพยาบาลที่พนักงานเข้ารับการรักษา |
|
1.5 | เพื่อจัดมาตรการความปลอดภัยในสถานประกอบการ | ภาพจำลองใบหน้าของพนักงานสำหรับสแกนเพื่อเข้า-ออกพื้นที่ของบริษัท |
|
1.6 | เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของพนักงาน อันได้แก่ กองทุนประกันสังคม และกองทุนเงินทดแทน | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ วันเดือนปีเกิด เงินเดือน จำนวนเงินสมทบประกันสังคม เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขประจำตัวผู้เสียภาษี เลขที่ประกันสังคม เลขที่บัญชีธนาคาร ที่อยู่ สถานะครอบครัว จำนวนบุตร เบอร์โทรศัพท์ ตำแหน่ง อายุงาน ลายมือชื่อ สถานที่ทำงาน สัญชาติ ศาสนา ข้อมูลความบกพร่องทางด้านร่างกาย |
|
1.7 | เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของพนักงาน อันได้แก่ การจัดทำประกันสุขภาพและประกันชีวิต | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ วันเดือนปีเกิด น้ำหนัก ส่วนสูง อายุ ที่อยู่ สถานะครอบครัว เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ลายมือชื่อ สถานที่ทำงาน เลขบัตรประจำตัวประชาชน สัญชาติ ศาสนา หมู่โลหิต และข้อมูลด้านสุขภาพ |
|
1.8 | เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของพนักงาน อันได้แก่ การจัดให้มีการตรวจสุขภาพประจำปี | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ วันเดือนปีเกิด เพศ เลขบัตรประจำตัวประชาชน อายุ ตำแหน่ง หมู่โลหิต ข้อมูลด้านสุขภาพ และข้อมูลความบกพร่องทางด้านร่างกาย |
|
1.9 | เพื่อการคำนวณอัตราการทำงานของพนักงานผู้ปฏิบัติงานของบริษัทผู้ให้บริการช่วง | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ ตำแหน่ง จำนวนชั่วโมงการทำงาน ลายมือชื่อ |
|
1.10 | เพื่อการเบิกจ่ายในการซื้อสินค้าหรือบริการของบริษัท การเบิกเงินสดให้แก่พนักงานที่ทดรองจ่าย | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ ตำแหน่ง ลายมือชื่อ |
|
1.11 | เพื่อการจัดทำบัญชีและงบการเงินของบริษัท การยื่นภาษีให้แก่กรมสรรพากร การทำธุรกรรมกับธนาคาร การหักภาษี ณ ที่จ่ายและการออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ ตำแหน่ง ลายมือชื่อ |
|
1.12 | เพื่อการคำนวณการจ่ายเงินเดือนและการหักภาษี ณ ที่จ่าย | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ ตำแหน่ง ลายมือชื่อ เลขประจำตัวประชาชน เลขประจำตัวผู้เสียภาษี เลขที่ประกันสังคม เลขที่บัญชีธนาคาร ที่อยู่ สถานะครอบครัว เงินเดือนที่ได้รับและโบนัส และสถานที่ทำงาน |
|
1.13 | เพื่อการบริหารจัดการองค์กร เช่น การเบิกและคืนเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา การพิจารณาใบเสนอราคาของผู้ขายหรือผู้ให้บริการ (เฉพาะวัสดุอุปกรณ์สำนักงาน และการบริการใช้ภายในสำนักงาน) การจัดทำและการปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายหรือสัญญาให้บริการกับ Supplier | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ ตำแหน่ง ลายมือชื่อ แผนกที่สังกัด เบอร์โทรศัพท์ อีเมล สถานที่ทำงาน ที่อยู่ |
|
1.14 | เพื่อการให้บริการของบริษัท เช่น การให้บริการผ่านข้อมูลอีเมลกลางของบริษัท การให้บริการบริหารแอปพลิเคชัน การให้บริการบริหารระบบจัดเก็บ Cloud การให้บริการคำปรึกษาด้านดิจิทัล การตรวจสอบระบบและข้อมูลของลูกค้าก่อนให้บริการ การติดต่อประสานงานกับผู้ให้บริการช่วงเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาให้บริการ | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ ตำแหน่ง อีเมล เบอร์โทรศัพท์ |
|
1.15 | เพื่อการส่งเสริมการขายของบริษัท เช่น การจัดจ้างผู้รับจัดงานและการจัดงานส่งเสริมการขายของบริษัท | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ ตำแหน่ง อีเมล เบอร์โทรศัพท์ |
|
1.16 | เพื่อการจัดทำสัญญาการให้บริการ (service agreement) ของบริษัท รวมถึง การติดต่อประสานงานกับลูกค้าก่อนการจัดทำใบเสนอราคา (quotation) การจัดทำใบเสนอราคา (quotation) ให้กับลูกค้า | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ ตำแหน่ง อีเมล เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ ประวัติการศึกษาและการเข้าฝึกอบรม ข้อมูลการทำงาน ลายมือชื่อ |
|
2. | บุคคลที่เกี่ยวข้อง | ||
2.1 | เพื่อใช้ตรวจสอบและยืนยันตัวตน | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ ตำแหน่ง ที่อยู่หรือสถานที่ทำงาน และเบอร์ติดต่อของบุคคลอ้างอิง และของพนักงานในบริษัทที่รู้จัก |
|
2.2 | เพื่อติดต่อกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นเกี่ยวกับพนักงาน | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ ตำแหน่ง ที่อยู่หรือสถานที่ทำงาน และเบอร์ติดต่อของผู้ติดต่อกรณีฉุกเฉิน |
|
2.3 | เพื่อประกอบการจัดทำประวัติพนักงาน | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ ตำแหน่ง ที่อยู่หรือสถานที่ทำงาน และเบอร์ติดต่อของคู่สมรส ของบุตร ของบิดาและมารดา และของพี่น้อง |
|
2.4 | เพื่อตรวจสอบการใช้วันลา เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับสวัสดิการของพนักงาน | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ ตำแหน่ง ลายมือชื่อของแพทย์ผู้ออกใบรับรองแพทย์ และของผู้ออกใบเสร็จรับเงิน |
|
2.5 | เพื่อรับผลประโยชน์เกี่ยวกับประกันชีวิตที่บริษัทจัดทำให้แก่พนักงาน | ชื่อ-นามสกุล และความสัมพันธ์กับผู้รับผลประโยชน์ประกันชีวิต
|
|
3. | กรณีอื่น ๆ | ||
3.1 | เพื่อเป็นข้อมูลประกอบ หรือเป็นหลักฐานประกอบกระบวนการดำเนินคดีในศาล ซึ่งรวมถึงการบังคับคดี การออกหนังสือทวงถาม และการเปิดเผยข้อมูลแก่ทนายความหรือที่ปรึกษาภายนอกเพื่อดำเนินการในลักษณะเดียวกัน | ข้อมูลใด ๆ ของพนักงาน |
|
3.2 | เพื่อดำเนินการตามคำร้องขอของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และให้ความร่วมมือ ในการสืบสวน สอบสวน และดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด | ข้อมูลใด ๆ ของพนักงาน |
|
3.3 | เพื่อการเปิดเผยและโอนข้อมูลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องเมื่อมีการขาย โอน ควบรวมกิจการ หรือปรับโครงสร้างองค์กร | ข้อมูลใด ๆ ของพนักงาน |
|
3.4 | เพื่อรักษาความปลอดภัยและป้องกันความเสียหายแก่บุคคลและทรัพย์สิน ตลอดจนเพื่อตรวจสอบ สืบหา และป้องกันการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย | ข้อมูลใด ๆ ของพนักงาน |
|
3.5 | เพื่อการควบคุมดูแลและบริหารจัดการบริษัทในเครือ | ข้อมูลใด ๆ ของพนักงาน |
|
3.6 | เพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายอนุญาตให้บริษัทสามารถดำเนินการได้ ภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด | ข้อมูลใด ๆ ของพนักงาน |
โดยทั่วไป บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลาไม่เกินกว่า 10 ปี นับตั้งแต่วันที่สัญญาจ้างระหว่างบริษัทกับพนักงานผู้นั้นสิ้นสุดลง เว้นแต่ในกรณีที่มีกฎหมาย อายุความ หรือมาตรฐานวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกำหนดหรืออนุญาตให้บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเพื่อวัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมาย
บริษัทได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งในเชิงองค์กรและเทคนิค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีอำนาจ การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยขัดต่อกฎหมาย และการป้องกันมิให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสูญหาย เสียหาย หรือถูกทำลาย เช่น การกำหนดอำนาจในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องจำเป็น (need-to-know basis) การรักษาความปลอดภัยด้านกายภาพสำหรับพื้นที่เก็บเอกสาร การใช้กุญแจล็อกตู้ที่ใช้จัดเก็บเอกสาร และการใช้ระบบยืนยันใบหน้าและรหัสในการพิสูจน์ตัวตนเพื่อเข้าถึงไฟล์เอกสาร เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทยังจัดให้มีการสัมมนาเพื่อให้ผู้บริหารและพนักงานของบริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และเกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
เป็นประจำ
โดยทั่วไปแล้ว ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการเปิดเผยเพื่อประมวลผลโดยบุคลากรของบริษัทผู้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง หรือมีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้น อย่างไรก็ดี บริษัทอาจเปิดเผยหรืออนุญาตให้มีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลภายนอกบริษัท ในกรณีดังต่อไปนี้
บริษัทในเครือและในกลุ่มของบริษัท | บริษัท อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี อินโนเวชั่น จำกัด |
ผู้ให้บริการของบริษัท | เช่น ผู้ให้บริการจัดหางาน ผู้ให้บริการรับจัดงานส่งเสริมการขาย ผู้ให้บริการพัฒนาและบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐาน ซอฟต์แวร์ เว็บไซต์ อีเมล และเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น ผู้ให้บริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลและระบบคลาวด์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ที่ปรึกษาด้านการเงินและผู้ตรวจสอบบัญชี ผู้ให้บริการด้านธุรกิจประกันภัย โรงพยาบาลที่ให้บริการด้านการตรวจสุขภาพ และ ธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการด้านการเงิน เป็นต้น |
ลูกค้าหรือคู่ค้าของบริษัท | เช่น ลูกค้าหรือคู่ค้าของบริษัท ซึ่งรวมถึงบุคลากรของบุคคลดังกล่าวที่มีความจำเป็นต้องติดต่อสื่อสารกับบริษัท |
บุคคลหรือหน่วยงานที่ใช้อำนาจตามกฎหมาย | เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานสอบสวน พนักงานตรวจแรงงาน หน่วยงานที่กำกับดูแลการดำเนินธุรกิจของบริษัท ศาล และเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานของรัฐที่บังคับใช้กฎหมายอื่น ๆ |
ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการควบรวม โอน หรือปรับโครงสร้างทางธุรกิจ | เช่น ผู้ลงทุน ผู้ตรวจสอบ และที่ปรึกษาที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการพิจารณาและตัดสินใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการธุรกิจของบริษัท |
ในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทอาจจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยัง Server ของผู้ให้บริการที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งประเทศปลายทางที่รับโอนข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ บริษัทจึงได้คัดสรรผู้ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือ พร้อมทั้งใช้มาตรการต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการจัดทำสัญญากับผู้ให้บริการเพื่อทำให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านต้องการใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทได้ตามช่องทางที่ระบุในนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ อย่างไรก็ดี บริษัทขอสงวนสิทธิในการดำเนินการที่จำเป็นเพื่อตรวจสอบและยืนยันตัวตนของท่านก่อนการพิจารณาคำขอ และบริษัทอาจปฏิเสธคำขอของท่านในบางกรณีภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
สิทธิในการถอนความยินยอม | หากท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิในการถอนความยินยอมโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้ดำเนินการไปแล้วโดยชอบ |
สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล | ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท และขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม |
สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล | ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้รับการจัดเก็บในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจากบริษัทในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น |
สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล | ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน |
สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล | ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ |
สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล | ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ |
สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล | ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด |
สิทธิในการร้องเรียน | หากท่านเชื่อว่าบริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยฝ่าฝืนหรือไม่เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานหรือคณะกรรมการผู้มีอำนาจได้ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด |
บริษัทจะพิจารณาทบทวนนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำ และอาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบาย
การจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่สำคัญผ่านทางช่องทางที่เหมาะสม
หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย หรือต้องการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างใดอย่างหนึ่ง ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ที่
บุคคลผู้ติดต่อ: คุณจริยา ทองลักษณะวงศ์
บริษัท อินโนเวชั่น คอนซัลท์ติ้ง เซอร์วิส จำกัด
ที่อยู่: 128/52 อาคารพญาไทพลาซ่า ชั้น5 ห้อง 5N ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
อีเมล: chariya@ics-th.com
เบอร์โทรศัพท์: 0-2129-3382
บริษัท อินโนเวชั่น คอนซัลท์ติ้ง เซอร์วิส จำกัด (“บริษัท”) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวและตระหนักถึงความสำคัญต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงผู้ที่มีความสนใจสมัครตำแหน่งงานในบริษัท ไม่ว่าท่านจะได้ยื่นใบสมัครกับบริษัทโดยตรงหรือโดยผ่านผู้ให้บริการจัดหางาน (“ท่าน”) บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพียงเท่าที่จำเป็นในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้ระบุไว้ในนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ (“นโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล”) โดยเป็นไปตามขอบเขตและหลักเกณฑ์ที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) กำหนด
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ รวมถึงบุคคลดังต่อไปนี้
ผู้สมัครงาน | ซึ่งหมายถึง บุคคลที่ยื่นสมัครตำแหน่งงานในบริษัท ไม่ว่าจะได้ยื่นใบสมัครต่อบริษัทโดยตรง หรือโดยผ่านเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือบริษัทผู้ให้บริการจัดหางานอื่น ๆ |
บุคคลที่เกี่ยวข้อง | ซึ่งหมายถึง บุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงานซึ่งผู้สมัครงานเป็นผู้ให้ข้อมูล เช่น บุคคลในครอบครัว บุคคลอ้างอิง ผู้ติดต่อกรณีฉุกเฉิน และพนักงานของบริษัทที่ผู้สมัครงานรู้จัก เป็นต้น |
ในกรณีทั่วไป บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากท่านโดยตรง เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านระบุในใบสมัครงานและ Curriculum Vitae เป็นต้น นอกจากนี้ ในกรณีที่ท่านสมัครงานผ่านเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือบริษัทผู้ให้บริการจัดหางานอื่น ๆ บริษัทจะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากผู้ให้บริการดังกล่าวด้วย โดยท่านสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามตารางด้านล่างนี้
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท เก็บรวบรวมจากท่านโดยตรง | บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระหว่างขั้นตอนดังต่อไปนี้ (ก) เมื่อท่านสมัครงานโดยยื่นเอกสารให้กับบริษัทโดยตรง (ข) เมื่อท่านให้ข้อมูลกับบริษัทระหว่างการสัมภาษณ์งาน (ค) กรณีอื่น ๆ ที่บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ |
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวมจากบุคคลอื่น | บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลอื่นในกรณีดังต่อไปนี้ (ก) ในกรณีที่ท่านใช้บริการเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือบริษัทผู้ให้บริการจัดหางานอื่น ๆ บริษัทจะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากผู้ให้บริการดังกล่าว (ข) บริษัทอาจได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับท่านจากการติดต่อบุคคลอ้างอิงที่ท่านได้ให้ข้อมูลไว้ (ค) ในกรณีที่ท่านเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงาน บริษัทได้รับข้อมูลของท่านจากผู้สมัครงานที่มีความเกี่ยวข้องกับท่าน (ง) กรณีอื่น ๆ ที่บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ |
ในกรณีที่ท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้องแก่บริษัท เช่น ข้อมูลของบุคคลในครอบครัว บุคคลอ้างอิง ผู้ติดต่อกรณีฉุกเฉิน และพนักงานของบริษัทที่ผู้สมัครงานรู้จัก ท่านต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลที่เกี่ยวข้องดังกล่าว และมีหน้าที่แจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ตามรายละเอียดในตารางด้านล่างนี้ โดยบริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฐานใดฐานหนึ่งหรือหลายฐาน ดังนี้
(ก) การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่มีผลบังคับใช้กับบริษัท
(ข) การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น
(ค) การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลอื่น
(ง) ในกรณีที่บริษัทไม่สามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานในการประมวลผลข้อมูล
ส่วนบุคคลฐานใดฐานหนึ่งข้างต้น บริษัทจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน โดยท่านสามารถถอนความยินยอมได้ทุกเมื่อ ผ่านช่องทางการติดต่อที่ระบุในนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
วัตถุประสงค์ | ข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้ในการประมวลผล | ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล | |
1. | ผู้สมัครงาน | ||
1.1 | เพื่อรับสมัครและคัดเลือกพนักงาน | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ วันเดือนปีเกิด เลขประจำตัวประชาชน อายุ ที่อยู่ อีเมล Line ID เพศ สถานะการเกณฑ์ทหาร สถานะครอบครัว จำนวนบุตร รูปถ่าย เบอร์โทรศัพท์ ประวัติการศึกษาและการทำงาน ทักษะพิเศษใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ลายมือชื่อ สถานที่ทำงาน ประวัติการอบรมต่าง ๆ เพศ ตำแหน่งงานที่ต้องการสมัครและเงินเดือนที่ต้องการ ประวัติการกระทำความผิดทางอาญาซึ่งไม่ใช่ประวัติอาชญากรรมที่ได้รับจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ข้อมูลการเป็นบุคคลล้มละลาย ข้อมูลสัญชาติ เชื้อชาติ ศาสนา หมู่โลหิต ความบกพร่องทางร่างกาย ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ และผลการประเมินคุณสมบัติพนักงาน |
|
1.2 | เพื่อตรวจสอบและยืนยันตัวตน | สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งอาจปรากฏ เลขบัตรประชาชน ข้อมูลสัญชาติ ศาสนา และหมู่โลหิต |
|
1.3 | เพื่อใช้ในการติดต่อผู้สมัครงาน | ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล และ Line ID |
|
2. | บุคคลที่เกี่ยวข้อง | ||
2.1 | เพื่อใช้ในการติดต่อและตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครงาน | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ ตำแหน่ง ที่อยู่หรือสถานที่ทำงาน และเบอร์ติดต่อของบุคคลอ้างอิง และของพนักงานในบริษัทที่ผู้สมัครงานรู้จัก |
|
2.2 | เพื่อใช้ติดต่อกรณีมีเหตุจำเป็นเกี่ยวกับพนักงาน | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ ตำแหน่ง ที่อยู่หรือสถานที่ทำงาน และเบอร์ติดต่อของคู่สมรส ของบุตร ของบิดาและมารดา และของพี่น้อง |
|
2.3 | เพื่อใช้ติดต่อกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นเกี่ยวกับพนักงาน | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ ตำแหน่ง ที่อยู่หรือสถานที่ทำงาน และเบอร์ติดต่อของผู้ติดต่อกรณีฉุกเฉิน |
|
โดยทั่วไปแล้ว บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานที่ไม่ได้รับการคัดเลือกไว้เป็นระยะเวลาไม่เกินกว่า 1 ปี โดยบริษัทจะดำเนินการลบและทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานที่ไม่ได้รับการคัดเลือกโดยการย่อยทำลายเอกสารทุก ๆ สิ้นปี
บริษัทได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งในเชิงองค์กรและเทคนิค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีอำนาจ การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยขัดต่อกฎหมาย และการป้องกันมิให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสูญหาย เสียหาย หรือถูกทำลาย เช่น การกำหนดอำนาจในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องจำเป็น (need-to-know basis) การรักษาความปลอดภัยด้านกายภาพสำหรับพื้นที่เก็บเอกสาร และการใช้กุญแจล็อกตู้ที่ใช้จัดเก็บเอกสาร เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทยังจัดให้มีการสัมมนาเพื่อให้ผู้บริหารและพนักงานของบริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และเกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
เป็นประจำ
โดยทั่วไปแล้ว ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการเปิดเผยเพื่อประมวลผลโดยบุคลากรของบริษัทเท่านั้น ซึ่งจะจำกัดเฉพาะบุคลากรผู้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงในกระบวนการคัดเลือกพนักงาน โดยไม่มีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอกแต่อย่างใด
บริษัทไม่มีนโยบายในการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านต้องการใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทได้ตามช่องทางที่ระบุในนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ อย่างไรก็ดี บริษัทขอสงวนสิทธิในการดำเนินการที่จำเป็นเพื่อตรวจสอบและยืนยันตัวตนของท่านก่อนการพิจารณาคำขอ และบริษัทอาจปฏิเสธคำขอของท่านในบางกรณีภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
สิทธิในการถอนความยินยอม | หากท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิในการถอนความยินยอมโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้ดำเนินการไปแล้วโดยชอบ |
สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล | ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท และขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม |
สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล | ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้รับการจัดเก็บในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจากบริษัทในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น |
สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล | ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน |
สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล | ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ |
สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล | ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ |
สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล | ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด |
สิทธิในการร้องเรียน | หากท่านเชื่อว่าบริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยฝ่าฝืนหรือไม่เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานหรือคณะกรรมการผู้มีอำนาจได้ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด |
บริษัทจะพิจารณาทบทวนนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำ และอาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบาย
การจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่สำคัญผ่านทางช่องทางที่เหมาะสม
หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย หรือต้องการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างใดอย่างหนึ่ง ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ที่
บุคคลผู้ติดต่อ: คุณจริยา ทองลักษณะวงศ์
บริษัท อินโนเวชั่น คอนซัลท์ติ้ง เซอร์วิส จำกัด
ที่อยู่: 128/52 อาคารพญาไทพลาซ่า ชั้น5 ห้อง 5N ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
อีเมล: chariya@ics-th.com
เบอร์โทรศัพท์: 0-2129-3382
บริษัท อินโนเวชั่น คอนซัลท์ติ้ง เซอร์วิส จำกัด (“บริษัท”) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวและตระหนักถึงความสำคัญต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถือหุ้นและกรรมการของบริษัท (“ท่าน”) บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพียงเท่าที่จำเป็นในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้ระบุไว้ในนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ (“นโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล”) โดยเป็นไปตามขอบเขตและหลักเกณฑ์ที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) กำหนด
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ รวมถึงบุคคลดังต่อไปนี้
ผู้ถือหุ้น | ซึ่งหมายถึง ผู้ถือหุ้น และบุคคลที่เคยเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท |
กรรมการ | ซึ่งหมายถึง กรรมการของบริษัท บุคคลที่เคยเป็นกรรมการของบริษัท และบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการของบริษัท |
บุคคลที่เกี่ยวข้อง | ซึ่งหมายถึง บุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลข้างต้น เช่น ผู้รับมอบฉันทะ/ผู้รับมอบอำนาจ เป็นต้น |
ในกรณีทั่วไป บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากท่านโดยตรง อย่างไรก็ดี ข้อมูลส่วนบุคคลบางประเภทจะถูกจัดเก็บโดยอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่บริษัทนำมาใช้ ซึ่งรวมถึงข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log File) นอกจากนี้ บริษัทยังอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลอื่นในบางกรณี โดยท่านสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามตารางด้านล่างนี้
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท เก็บรวบรวมจากท่านโดยตรง | บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถือหุ้น ในระหว่างขั้นตอนดังต่อไปนี้ (ก) บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถือหุ้น เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับตัวบุคคล ข้อมูลในการติดต่อ ข้อมูลทางบัญชี และข้อมูลเกี่ยวกับหุ้น เมื่อท่านได้แจ้งถึงการเข้าเป็น (ข) บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถือหุ้น เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าร่วมประชุม การมอบฉันทะ การแสดงความเห็น การลงมติ และการใช้สิทธิอื่น ๆ ในฐานะ บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ ในระหว่างขั้นตอนดังต่อไปนี้ (ก) บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับตัวบุคคล ข้อมูลในการติดต่อ และประวัติส่วนตัว เมื่อท่านให้ความยินยอมในการถูกเสนอชื่อเพื่อเข้ารับตำแหน่งกรรมการบริษัท และ/หรือเมื่อท่านได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการของบริษัท (ข) บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าร่วมประชุม การมอบอำนาจ การแสดงความเห็น การลงมติ และการปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ ในฐานะกรรมการบริษัท เมื่อท่านเข้าร่วมการประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น การประชุมคณะกรรมการบริษัท และการประชุมอื่น ๆ ที่บริษัทจัดขึ้น รวมทั้งเมื่อท่านใช้สิทธิหรือปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ ในฐานะกรรมการบริษัท บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับมอบฉันทะ/ผู้รับมอบอำนาจของผู้ถือหุ้นและกรรมการ ในระหว่างขั้นตอนดังต่อไปนี้ (ก) บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับมอบฉันทะ/ผู้รับมอบอำนาจของ (ข) กรณีอื่น ๆ ที่บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ |
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติหรือด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ | ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกเก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ ในกรณีดังต่อไปนี้ (ก) บริษัทอาจบันทึกการประชุมที่จัดขึ้นผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ข) บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log File) เมื่อท่านใช้งานคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตของบริษัท (ค) กรณีอื่น ๆ ที่บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ |
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวมจากบุคคลอื่น | บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลอื่นในกรณีดังต่อไปนี้ (ก) หากท่านเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้อง บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากผู้ถือหุ้นและกรรมการของบริษัทที่ท่านมีความเกี่ยวข้อง (ข) กรณีอื่น ๆ ที่บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ |
ในกรณีที่ท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้องแก่บริษัท เช่น ข้อมูลของบุคคลในครอบครัว ท่านต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลที่เกี่ยวข้องดังกล่าว และมีหน้าที่แจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
ในกรณีที่ท่านต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือมีความจำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเข้าทำหรือปฏิบัติตามสัญญา บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงผลกระทบจากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ซึ่งในบางกรณี การไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจทำให้ท่านไม่สามารถใช้สิทธิบางอย่างเนื่องจากบริษัทไม่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์นั้น ๆ
บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ตามรายละเอียดในตารางด้านล่างนี้ โดยบริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฐานใดฐานหนึ่งหรือหลายฐาน ดังนี้
(ก) การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่มีผลบังคับใช้กับบริษัท
(ข) การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น
(ค) การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลอื่น
(ง) การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นไปเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
(จ) ในกรณีที่บริษัทไม่สามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานในการประมวลผลข้อมูล
ส่วนบุคคลฐานใดฐานหนึ่งข้างต้น บริษัทจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน โดยท่านสามารถถอนความยินยอมได้ทุกเมื่อ ผ่านช่องทางการติดต่อที่ระบุในนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
วัตถุประสงค์ | ข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้ในการประมวลผล | ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล | |
1. | ผู้ถือหุ้น | ||
1.1 | เพื่อจัดทำและเก็บรักษาทะเบียน ใบหุ้น รายงาน และบันทึกเกี่ยวกับผู้ถือหุ้นของบริษัท รวมทั้งเพื่อจัดเตรียมและยื่นเอกสารกับหน่วยงานราชการ ที่เกี่ยวข้อง | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด อายุ ลายมือชื่อ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวนหุ้นที่ถือ เลขที่หุ้น มูลค่าหุ้น ประวัติการรับ-โอนหุ้น การจองซื้อหุ้น การชำระค่าหุ้น การรับเงินปันผล การคืนเงินลงทุน รวมทั้งการใช้สิทธิต่าง ๆ อันเกี่ยวกับหุ้น |
|
1.2 | เพื่อประโยชน์ในการเรียกประชุม การจัดการประชุม และการจัดทำรายงานการประชุม | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ที่อยู่ ลายมือชื่อ ข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าประชุม การออกเสียง การแสดงความเห็น การลงมติในที่ประชุม และการใช้สิทธิต่าง ๆ ในฐานะผู้ถือหุ้น รวมทั้งการบันทึกการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
|
|
1.3 | เพื่อใช้ประกอบการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น และการหักภาษี ณ ที่จ่าย | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ เลขที่บัญชีธนาคาร เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน เลขประจำตัวผู้เสียภาษี ลายมือชื่อ |
|
1.4 | เพื่อจัดมาตรการความปลอดภัยในสถานประกอบการ | ภาพจำลองใบหน้าสำหรับสแกนเพื่อเข้า-ออกพื้นที่ของบริษัท |
|
2. | กรรมการ | ||
2.1 | เพื่อการเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งรวมถึงการจัดทำสัญญา และการจัดสิทธิประโยชน์ (ถ้ามี) | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ วันเดือนปีเกิด เลขประจำตัวประชาชน อายุ ที่อยู่ อีเมลและ Line ID เพศ สถานะการเกณฑ์ทหาร สถานะครอบครัว จำนวนบุตร รูปถ่าย เบอร์โทรศัพท์ ประวัติการศึกษาและการทำงาน ทักษะพิเศษใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ลายมือชื่อ สถานที่ทำงาน ประวัติการอบรมต่างๆ เพศ ตำแหน่งงานที่ต้องการสมัครและเงินเดือนที่ต้องการ ข้อมูลสัญชาติ เชื้อชาติ ศาสนา หมู่โลหิต ความบกพร่องทางร่างกาย ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลการเป็นบุคคลล้มละลาย |
|
2.2 | เพื่อจัดทำและเก็บรักษาเอกสารของกรรมบริษัท และการแจ้งเปลี่ยนแปลงกรรมการต่อหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงกรมพัฒนาธุรกิจการค้า | ชื่อ-นามสกุล อายุ สัญชาติ เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ลายมือชื่อ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน |
|
2.3 | เพื่อประโยชน์ในการเรียกประชุม การจัดการประชุม และการจัดทำรายงานการประชุม | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด ลายมือชื่อ ตำแหน่ง วาระการดำรงตำแหน่ง ค่าตอบแทน ข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าประชุม การออกเสียง การแสดงความเห็น การลงมติในที่ประชุม ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกรรมการบริษัท และการสิ้นสุดการดำรงตำแหน่ง รวมทั้งการบันทึกการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ |
|
2.4 | เพื่อประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัท การติดต่อสื่อสาร การทำสัญญาทางธุรกิจ และการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกรรมการของบริษัท | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ อีเมล ตำแหน่ง ลายมือชื่อ ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกรรมการบริษัท และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน |
|
2.5 | เพื่อใช้ประกอบการจ่ายค่าตอบแทนให้แก่กรรมการ และการหักภาษี ณ ที่จ่าย
| ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ ที่อยู่ เลขที่บัญชีธนาคาร เลขที่บัตรประจำตัว เลขประชาชน เลขประจำตัวผู้เสียภาษี เลขที่ประกันสังคม สถานะครอบครัว ตำแหน่ง ค่าตอบแทน ลายมือชื่อ สถานที่ทำงาน |
|
2.6 | เพื่อจัดมาตรการความปลอดภัยในสถานประกอบการ | ภาพจำลองใบหน้าสำหรับสแกนเพื่อเข้า-ออกพื้นที่ของบริษัท |
|
3. | บุคคลที่เกี่ยวข้อง | ||
3.1 | เพื่อยืนยันตัวตนและเป็นหลักฐานเกี่ยวกับการทำหน้าที่ในฐานะผู้รับมอบฉันทะ/ผู้รับมอบอำนาจ | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ ตำแหน่ง ที่อยู่หรือสถานที่ทำงาน และเบอร์โทรศัพท์ของบุคคลอ้างอิง และของพนักงานในบริษัทที่รู้จัก ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการในฐานะผู้รับมอบฉันทะ/ผู้รับมอบอำนาจ รวมทั้งการบันทึกการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ |
|
3.2 | เพื่อการจัดทำประวัติกรรมการ | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ ตำแหน่ง ที่อยู่หรือสถานที่ทำงาน และเบอร์ติดต่อของคู่สมรส ของบุตร ของบิดาและมารดา และของพี่น้อง |
|
3.3 | เพื่อติดต่อกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นเกี่ยวกับกรรมการ | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ ตำแหน่ง ที่อยู่หรือสถานที่ทำงาน และเบอร์ติดต่อของผู้ติดต่อกรณีฉุกเฉิน |
|
4. | กรณีอื่น ๆ | ||
4.1 | เพื่อเป็นข้อมูลประกอบ หรือเป็นหลักฐานประกอบกระบวนการดำเนินคดีในศาล ซึ่งรวมถึงการบังคับคดี การออกหนังสือทวงถาม และการเปิดเผยข้อมูลแก่ทนายความหรือที่ปรึกษาภายนอกเพื่อดำเนินการในลักษณะเดียวกัน | ข้อมูลใด ๆ ของท่าน |
|
4.2 | เพื่อรักษาความปลอดภัยและป้องกันความเสียหายแก่บุคคลและทรัพย์สิน ตลอดจนเพื่อตรวจสอบ สืบหา ดำเนินการ และป้องกันการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมายหรือกฎระเบียบของบริษัท | ข้อมูลใด ๆ ของท่าน |
|
4.3 | เพื่อดำเนินการตามคำร้องขอของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และให้ความร่วมมือ ในการสืบสวน สอบสวน และดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด | ข้อมูลใด ๆ ของท่าน |
|
4.4 | เพื่อการเปิดเผยและโอนข้อมูลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องเมื่อมีการขาย โอน ควบรวมกิจการ หรือปรับโครงสร้างองค์กร | ข้อมูลใด ๆ ของท่าน |
|
4.5 | เพื่อการควบคุมดูแลและบริหารจัดการบริษัทในเครือ | ข้อมูลใด ๆ ของท่าน |
|
4.6 | เพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายอนุญาตให้บริษัทสามารถดำเนินการได้ ภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด |
โดยทั่วไป บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถือหุ้นและกรรมการไว้จนกว่าบริษัทจะเลิกบริษัทและการชำระบัญชีเสร็จสิ้น ซึ่งเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
บริษัทได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งในเชิงองค์กรและเทคนิค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีอำนาจ การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยขัดต่อกฎหมาย และการป้องกันมิให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสูญหาย เสียหาย หรือถูกทำลาย เช่น การกำหนดอำนาจในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องจำเป็น (need-to-know basis) การรักษาความปลอดภัยด้านกายภาพสำหรับพื้นที่เก็บเอกสาร การใช้กุญแจล็อกตู้ที่ใช้จัดเก็บเอกสาร และการใช้ระบบยืนยันใบหน้าและรหัสในการพิสูจน์ตัวตนเพื่อเข้าถึงไฟล์เอกสาร เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทยังจัดให้มีการสัมมนาเพื่อให้ผู้บริหารและพนักงานของบริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และเกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
เป็นประจำ
โดยทั่วไปแล้ว ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการเปิดเผยเพื่อประมวลผลโดยบุคลากรของบริษัทผู้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง หรือมีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้น อย่างไรก็ดี บริษัทอาจเปิดเผยหรืออนุญาตให้มีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลภายนอกบริษัท ในกรณีดังต่อไปนี้
บริษัทในเครือและในกลุ่มของบริษัท | บริษัท อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี อินโนเวชั่น จำกัด |
ผู้ให้บริการของบริษัท | เช่น ผู้ให้บริการจัดหางาน ผู้ให้บริการรับจัดงานส่งเสริมการขาย ผู้ให้บริการพัฒนาและบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐาน ซอฟต์แวร์ เว็บไซต์ อีเมล และเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น ผู้ให้บริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลและระบบคลาวด์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ที่ปรึกษาด้านการเงินและผู้ตรวจสอบบัญชี ผู้ให้บริการด้านธุรกิจประกันภัย โรงพยาบาลที่ให้บริการด้านการตรวจสุขภาพ และ ธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการด้านการเงิน เป็นต้น |
ลูกค้าหรือคู่ค้าของบริษัท | เช่น ลูกค้าหรือคู่ค้าของบริษัท ซึ่งรวมถึงบุคลากรของบุคคลดังกล่าวที่มีความจำเป็นต้องติดต่อสื่อสารกับบริษัท |
บุคคลหรือหน่วยงานที่ใช้อำนาจตามกฎหมาย | เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานสอบสวน พนักงานตรวจแรงงาน หน่วยงานที่กำกับดูแลการดำเนินธุรกิจของบริษัท ศาล และเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานของรัฐที่บังคับใช้กฎหมายอื่น ๆ |
ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการควบรวม โอน หรือปรับโครงสร้างทางธุรกิจ | เช่น ผู้ลงทุน ผู้ตรวจสอบ และที่ปรึกษาที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการพิจารณาและตัดสินใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการธุรกิจของบริษัท |
ในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทอาจจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยัง Server ของผู้ให้บริการที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งประเทศปลายทางที่รับโอนข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ บริษัทจึงได้คัดสรรผู้ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือ พร้อมทั้งใช้มาตรการต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการจัดทำสัญญากับผู้ให้บริการเพื่อทำให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านต้องการใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทได้ตามช่องทางที่ระบุในนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ อย่างไรก็ดี บริษัทขอสงวนสิทธิในการดำเนินการที่จำเป็นเพื่อตรวจสอบและยืนยันตัวตนของท่านก่อนการพิจารณาคำขอ และบริษัทอาจปฏิเสธคำขอของท่านในบางกรณีภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
สิทธิในการถอนความยินยอม | หากท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิในการถอนความยินยอมโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้ดำเนินการไปแล้วโดยชอบ |
สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล | ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท และขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม |
สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล | ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้รับการจัดเก็บในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจากบริษัทในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น |
สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล | ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน |
สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล | ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ |
สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล | ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ |
สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล | ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด |
สิทธิในการร้องเรียน | หากท่านเชื่อว่าบริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยฝ่าฝืนหรือไม่เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานหรือคณะกรรมการผู้มีอำนาจได้ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด |
บริษัทจะพิจารณาทบทวนนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำ และอาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบาย
การจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่สำคัญผ่านทางช่องทางที่เหมาะสม
หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย หรือต้องการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างใดอย่างหนึ่ง ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ที่
บุคคลผู้ติดต่อ: คุณจริยา ทองลักษณะวงศ์
บริษัท อินโนเวชั่น คอนซัลท์ติ้ง เซอร์วิส จำกัด
ที่อยู่: 128/52 อาคารพญาไทพลาซ่า ชั้น5 ห้อง 5N ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
อีเมล: chariya@ics-th.com
เบอร์โทรศัพท์: 0-2129-3382
บริษัท อินโนเวชั่น คอนซัลท์ติ้ง เซอร์วิส จำกัด (“บริษัท”) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวและตระหนักถึงความสำคัญต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ผู้ขาย ผู้ให้บริการ และพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท (“ท่าน”) บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพียงเท่าที่จำเป็นในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้ระบุไว้ในนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ (“นโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล”) โดยเป็นไปตามขอบเขตและหลักเกณฑ์ที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) กำหนด
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ รวมถึงบุคคลดังต่อไปนี้
ลูกค้า | ซึ่งหมายถึง ลูกค้า และผู้ที่มีความสนใจในบริการของบริษัทซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา ตลอดจนกรรมการ พนักงาน หรือตัวแทนของลูกค้า และผู้ที่มีความสนใจในสินค้าของบริษัทซึ่งเป็น นิติบุคคล |
คู่ค้า | ซึ่งหมายถึง ผู้ขาย ผู้ให้บริการ และพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา ตลอดจนกรรมการ พนักงาน และตัวแทนของผู้ขาย ผู้ให้บริการ และพันธมิตรทางธุรกิจซึ่งเป็นนิติบุคคล รวมถึงพยานในการลงนามสัญญา และบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมหรือการติดต่อสื่อสารกับบุคคลดังกล่าวข้างต้น |
ในกรณีทั่วไป บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากท่านโดยตรง อย่างไรก็ดี ข้อมูลส่วนบุคคลบางประเภทจะถูกจัดเก็บโดยอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่บริษัทนำมาใช้ ซึ่งรวมถึงข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log File) นอกจากนี้ บริษัทยังอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งอื่นในบางกรณี เช่น จากบุคคลที่สาม หรือสื่อสาธารณะ โดยท่านสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามตารางด้านล่างนี้
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท เก็บรวบรวมจากท่านโดยตรง | โดยทั่วไปแล้ว เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากท่านโดยตรง ซึ่งอาจรวมถึง (ก) เมื่อมีการติดต่อเพื่อแนะนำ หารือ เจรจา หรือดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมที่ทำกับบริษัท ซึ่งรวมถึงขั้นตอนการเสนอราคา การให้บริการตามสัญญา และการบังคับใช้สัญญาที่ทำกับบริษัท (ข) เมื่อดำเนินการจัดเตรียมสัญญาซื้อขาย สัญญาจ้าง หรือสัญญาบริการกับบริษัท (ค) กรณีอื่น ๆ ที่เราจะแจ้งให้ท่านทราบ |
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติหรือด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ | ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกเก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ ในกรณีดังต่อไปนี้ (ก) บริษัทอาจบันทึกการประชุมที่จัดขึ้นผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ข) กรณีอื่น ๆ ที่บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ |
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวมจากบุคคลอื่น | เราอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลภายนอกและสื่อสาธารณะในกรณีดังต่อไปนี้ (ก) เราอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบริษัทในเครือหรือในกลุ่มของเรา (ข) เมื่อท่านได้รับการแนะนำจากบุคคลอื่น ซึ่งรวมถึงบริษัทหรือตัวแทนที่ท่านสังกัด (ค) กรณีอื่น ๆ ที่เราจะแจ้งให้ท่านทราบ |
ในกรณีที่เรามีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นจากท่าน ก่อนที่ท่านจะเปิดเผยข้อมูล
ส่วนบุคคลของบุคคลอื่นนั้นให้แก่เรา ท่านต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบและอนุญาตให้เราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ทั้งนี้ บริษัทจะปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามอย่างเคร่งครัด
ในกรณีที่ท่านต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือมีความจำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเข้าทำหรือปฏิบัติตามสัญญา บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงผลกระทบจากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ซึ่งในบางกรณี การไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจทำให้ท่านไม่สามารถเข้าทำสัญญากับบริษัทหรือไม่อาจใช้สิทธิบางอย่างได้ เนื่องจากบริษัทไม่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์นั้น ๆ
บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ตามรายละเอียดในตารางด้านล่างนี้ โดยบริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฐานใดฐานหนึ่งหรือหลายฐาน ดังนี้
(ก) การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่มีผลบังคับใช้กับบริษัท
(ข) การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น
(ค) การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลอื่น
(ง) การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นไปเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
(จ) ในกรณีที่บริษัทไม่สามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานในการประมวลผลข้อมูล
ส่วนบุคคลฐานใดฐานหนึ่งข้างต้น บริษัทจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน โดยท่านสามารถถอนความยินยอมได้ทุกเมื่อ ผ่านช่องทางการติดต่อที่ระบุในนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
วัตถุประสงค์ | ข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้ในการประมวลผล | ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล | |
1. | ลูกค้าของบริษัท | ||
1.1 | เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาข้อเสนอราคา และการตกลงรายละเอียดเกี่ยวกับการให้บริการ รวมทั้งการติดต่อประสานงานระหว่างกระบวนการดังกล่าว | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ตำแหน่ง ลายมือชื่อ สถานที่ทำงาน ที่อยู่ สถานะครอบครัว เงินเดือน |
|
1.2 | เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการจัดทำสัญญาจ้างบริการกับบริษัท | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ตำแหน่ง ลายมือชื่อ สถานที่ทำงาน ที่อยู่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน เลขที่บัญชีธนาคาร |
|
1.3 | เพื่อจัดทำฐานข้อมูลของลูกค้าที่เคยทำธุรกรรมกับบริษัท | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ตำแหน่ง |
|
1.4 | เพื่อการให้บริการและการปฏิบัติตามสัญญา รวมทั้งการติดต่อประสานงาน การบังคับให้เป็นไปตามสัญญา | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ตำแหน่ง ลายมือชื่อ สถานที่ทำงาน ที่อยู่ สถานะครอบครัว เลขบัญชีธนาคาร เงินเดือน |
|
1.5 | เพื่อการจัดงานส่งเสริมการขาย | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ตำแหน่ง ที่อยู่ |
|
2. | คู่ค้าของบริษัท | ||
2.1 | เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาข้อเสนอราคา และการตกลงรายละเอียดเกี่ยวกับการซื้อขายหรือการว่าจ้าง รวมทั้งการติดต่อประสานงานระหว่างกระบวนการดังกล่าว | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ตำแหน่ง ลายมือชื่อ สถานที่ทำงาน ที่อยู่ |
|
2.2 | เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการจัดทำสัญญาซื้อขายหรือสัญญาจ้างบริการ ซึ่งรวมถึงการสั่งซื้อหรือสั่งจ้าง | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ตำแหน่ง ลายมือชื่อ สถานที่ทำงาน ที่อยู่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน |
|
2.3 | เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา รวมทั้งการติดต่อประสานงาน การบังคับให้เป็นไปตามสัญญา | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ตำแหน่ง ลายมือชื่อ สถานที่ทำงาน ที่อยู่ จำนวนชั่วโมงการทำงาน |
|
2.4 | เพื่อใช้ในการชำระค่าบริการหรือค่าสินค้า | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ตำแหน่ง ลายมือชื่อ สถานที่ทำงาน ที่อยู่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน เลขที่บัญชีธนาคาร |
|
2.5 | เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการหักและยื่นภาษีแก่หน่วยงานของรัฐ | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ลายมือชื่อ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน |
|
2.6 | เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการจัดทำบัญชี และงบการเงินของบริษัท | ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขที่ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต |
|
3. | กรณีอื่น ๆ | ||
3.1 | เพื่อเป็นข้อมูลประกอบ หรือเป็นหลักฐานประกอบกระบวนการดำเนินคดีในศาล ซึ่งรวมถึงการบังคับคดี การออกหนังสือทวงถาม และการเปิดเผยข้อมูลแก่ทนายความหรือที่ปรึกษาภายนอกเพื่อดำเนินการในลักษณะเดียวกัน | ข้อมูลใด ๆ ของท่าน |
|
3.2 | เพื่อรักษาความปลอดภัยและป้องกันความเสียหายแก่บุคคลและทรัพย์สิน ตลอดจนเพื่อตรวจสอบ สืบหา ดำเนินการ และป้องกันการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมายหรือกฎระเบียบของบริษัท | ข้อมูลใด ๆ ของท่าน |
|
3.3 | เพื่อดำเนินการตามคำร้องขอของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และให้ความร่วมมือ ในการสืบสวน สอบสวน และดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด | ข้อมูลใด ๆ ของท่าน |
|
3.4 | เพื่อการเปิดเผยและโอนข้อมูลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องเมื่อมีการขาย โอน ควบรวมกิจการ หรือปรับโครงสร้างองค์กร | ข้อมูลใด ๆ ของท่าน |
|
3.5 | เพื่อการควบคุมดูแลและบริหารจัดการบริษัทในเครือ | ข้อมูลใด ๆ ของท่าน |
|
3.6 | เพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายอนุญาตให้บริษัทสามารถดำเนินการได้ ภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด |
โดยทั่วไป เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตลอดระยะเวลาตามสัญญาที่ท่านจัดทำกับบริษัท หรือตลอดระยะเวลาที่ท่านมีนิติสัมพันธ์กับบริษัท เว้นแต่ในกรณีที่มีกฎหมาย อายุความ หรือมาตรฐานวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกำหนดหรืออนุญาตให้เราจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเพื่อวัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมาย เราจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปหลังจากสัญญาหรือนิติสัมพันธ์ของท่านกับบริษัทสิ้นสุดลงแล้ว ทั้งนี้ เพียงระยะเวลาเท่าที่จำเป็นในการประมวลผลตามวัตถุประสงค์นั้น ๆ เช่น บริษัทเก็บรักษาข้อมูลใบกำกับภาษีไว้เป็นระยะเวลา 10 ปี
ในกรณีที่ไม่มีกฎหมาย อายุความ หรือมาตรฐานวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกำหนดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นการเฉพาะ เราจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นและเหมาะสมเพียงเพื่อประมวลผลตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
สำหรับคู่ค้าที่บริษัทได้รับข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาข้อเสนอราคา แต่ไม่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าทำสัญญากับบริษัท บริษัทจะทำลายข้อมูลทุก ๆ สิ้นปี
บริษัทได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งในเชิงองค์กรและเทคนิค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีอำนาจ การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยขัดต่อกฎหมาย และการป้องกันมิให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสูญหาย เสียหาย หรือถูกทำลาย เช่น การกำหนดอำนาจในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องจำเป็น (need-to-know basis) การรักษาความปลอดภัยด้านกายภาพสำหรับพื้นที่เก็บเอกสาร การใช้กุญแจล็อกตู้ที่ใช้จัดเก็บเอกสาร และการใช้ระบบยืนยันใบหน้าและรหัสในการพิสูจน์ตัวตนเพื่อเข้าถึงไฟล์เอกสาร เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทยังจัดให้มีการสัมมนาเพื่อให้ผู้บริหารและพนักงานของบริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และเกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
เป็นประจำ
โดยทั่วไปแล้ว ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการเปิดเผยเพื่อประมวลผลโดยบุคลากรของบริษัทผู้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง หรือมีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้น อย่างไรก็ดี บริษัทอาจเปิดเผยหรืออนุญาตให้มีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลภายนอกบริษัท ในกรณีดังต่อไปนี้
บริษัทในเครือและในกลุ่มของบริษัท | บริษัท อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี อินโนเวชั่น จำกัด |
ผู้ให้บริการของบริษัท | เช่น ผู้ให้บริการรับจัดงานส่งเสริมการขาย ผู้ให้บริการพัฒนาและบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐาน ซอฟต์แวร์ เว็บไซต์ อีเมล และเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น ผู้ให้บริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลและระบบคลาวด์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ที่ปรึกษาด้านการเงินและผู้ตรวจสอบบัญชี และธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการด้านการเงิน เป็นต้น |
บุคคลหรือหน่วยงานที่ใช้อำนาจตามกฎหมาย | เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสรรพากร เจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานสอบสวน หน่วยงานที่กำกับดูแลการดำเนินธุรกิจของบริษัท ศาล และเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานของรัฐที่บังคับใช้กฎหมายอื่น ๆ |
ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการควบรวม โอน หรือปรับโครงสร้างทางธุรกิจ | เช่น ผู้ลงทุน ผู้ตรวจสอบ และที่ปรึกษาที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการพิจารณาและตัดสินใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการธุรกิจของบริษัท |
ในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทอาจจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยัง Server ของผู้ให้บริการที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งประเทศปลายทางที่รับโอนข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ บริษัทจึงได้คัดสรรผู้ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือ พร้อมทั้งใช้มาตรการต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการจัดทำสัญญากับผู้ให้บริการเพื่อทำให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านต้องการใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทได้ตามช่องทางที่ระบุในนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ อย่างไรก็ดี บริษัทขอสงวนสิทธิในการดำเนินการที่จำเป็นเพื่อตรวจสอบและยืนยันตัวตนของท่านก่อนการพิจารณาคำขอ และบริษัทอาจปฏิเสธคำขอของท่านในบางกรณีภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
สิทธิในการถอนความยินยอม | หากท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิในการถอนความยินยอมโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้ดำเนินการไปแล้วโดยชอบ |
สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล | ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท และขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม |
สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล | ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้รับการจัดเก็บในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจากบริษัทในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น |
สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล | ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน |
สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล | ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ |
สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล | ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ |
สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล | ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด |
สิทธิในการร้องเรียน | หากท่านเชื่อว่าบริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยฝ่าฝืนหรือไม่เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานหรือคณะกรรมการผู้มีอำนาจได้ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด |
บริษัทจะพิจารณาทบทวนนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำ และอาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบาย
การจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่สำคัญผ่านทางช่องทางที่เหมาะสม
หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย หรือต้องการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างใดอย่างหนึ่ง ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ที่
บุคคลผู้ติดต่อ: คุณจริยา ทองลักษณะวงศ์
บริษัท อินโนเวชั่น คอนซัลท์ติ้ง เซอร์วิส จำกัด
ที่อยู่: 128/52 อาคารพญาไทพลาซ่า ชั้น5 ห้อง 5N ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
อีเมล: chariya@ics-th.com
เบอร์โทรศัพท์: 0-2129-3382